(V.I. Lenin: Letter on the eve of the October Revolution) วี. ไอ. เลนิน
ต้นฉบับ : http://www.idcommunism.com/2021/11/vi-lenin-letter-on-eve-of-october-.html?m=1
แปล : จักรพล ผลละออ
เนื้อหาในจดหมายด้านล่างนี้ คือเนื้อความจากจดหมายที่เขียนโดย วลาดิมีร์ อิลลิช เลนิน ซึ่งส่งถึงสมาชิกในคณะกรรมการกลางของพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยแรงงานรัสเซีย ในวันที่ 24 ตุลาคม 1917 (6 พฤศจิกายน – ตามปฏิทินปัจจุบัน) ในช่วงค่ำคืนก่อนที่การปฏิวัติเดือนตุลาจะระเบิดออก
“สหายทุกท่าน
ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ในค่ำคืนของวันที่ 24 ตุลาคม ในห้วงเวลาที่สถานการณ์กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและแหลมคมยิ่งขึ้นมากที่สุด อันที่จริงในสถานการณ์ปัจจุบันนี้คงเป็นที่ประจักษ์ได้อย่างชัดแจ้งแก่สายตาสหายทุกท่านแล้วว่าการประวิงเวลาเตะถ่วงการลุกขึ้นสู้ของพี่น้องประชาชนออกไปนั้นมีแต่จะนำไปสู่ความหายนะ ดังนั้นเองผมจึงขอวิงวอนเรียกร้องต่อสหายนักปฏิวัติทุกคนอย่างจริงจัง พวกท่านต้องตระหนักและมองเห็นความเป็นจริงว่าพวกเราล้วนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันสุ่มเสี่ยง และปัญหาที่พวกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่นี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการประชุมเจรจา หรือด้วยกลไกของสภาอีกต่อไป หากแต่เราจะต้องแก้ไขมันด้วยประชาชน ด้วยพลังของมวลชน และด้วยการลุกขึ้นสู้ของพี่น้องประชาชน
การคุกคามจากพวกกระฎุมพีภายใต้การนำของคอร์นิลอฟ และการสั่งปลดเวอร์คอฟสกีคือสัญญาณแจ้งเตือนอันชัดเจนว่าพวกเราไม่อาจจะเฝ้ารออย่างนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ในค่ำคืนนี้ถึงเวลาที่เราต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อการต่อสู้ และเป้าหมายแรกคือการเข้าจับกุมคณะรัฐบาล และควบคุมบรรดาเจ้าหน้าที่ทหารรักษาการของรัฐบาล
สหาย พวกเราไม่อาจนิ่งเฉยได้อีก ความนิ่งเฉยนี้จะทำให้เราสูญสิ้นทุกอย่าง!
การเข้ายึดอำนาจของเราจะยังประโยชน์เป็นเสมือนเครื่องปกป้องของประชาชนจากเงื้อนมือของพวกรัฐบาลกระฎุมพีที่ขับไล่ไสส่งเวอร์คิฟสกี
ถึงตอนนี้พวกท่านอาจเกิดคำถามว่า แล้วใครจะเป็นผู้ครองอำนาจหลังจากนี้?
ผมเห็นว่าการถกเถียงเรื่องนี้อาจจะยังไม่ใช่เรื่องสำคัญนักในสถานการณ์ปัจจุบัน เราอาจจะมอบหมายให้คณะกรรมการกองทัพปฏิวัติเป็นผู้รับอำนาจ หรือเราจะส่งต่ออำนาจนี้ให้แก่ “สถาบันทางการเมือง” ที่สถาปนาขึ้นมาใหม่ก็ได้ เพราะหัวใจสำคัญที่แท้จริงก็คือองค์กรทางการเมืองใดก็ตามที่จะเข้ามารับอำนาจนี้ไป จะต้องประกาศสาบานตนว่าในท้ายที่สุดแล้วจะยินยอมสละอำนาจนี้โดยส่งต่ออำนาจให้แก่ผู้แทนที่แท้จริงที่จะเข้ามาทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของทหาร (โดยประกาศยุติสงครามและถอนตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 1) เพื่อผลประโยชน์ของชาวนา (โดยการเวนคืนที่ดินจากบรรดาเจ้าที่ดินศักดินา และล้มเลิกระบอบกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล) และเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนผู้อดอยากให้พวกเขาได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน
สหายทุกท่าน วันนี้ความเคลื่อนไหวย่อมปรากฏ ในทุกเขตปกครอง ทุกกองกำลังทหาร ทุกพละกำลังของเราจะขับเคลื่อนโดยพร้อมเพรียงกันส่งตัวแทนไปถึงคณะกรรมการกองทัพปฏิวัติ และถึงคณะกรรมการกลางของพรรคบอลเชวิคเพื่อยืนกรานข้อเรียกร้องของพวกเราทั้งผองว่าเราไม่ยินยอมให้เกเรนสกี้ และพรรคพวกของมันครองอำนาจต่อไปอีกแล้ว แม้แต่เพียงวันเดียว หรือแม้เพียงค่ำคืนเดียว พี่น้องทุกท่านในวันพรุ่งนี้ ในวันที่ 25 จะต้องไม่มีรัฐบาลของเกเรนสกี้อีกต่อไป ทุกอย่างจะต้องยุติลงในค่ำคืนนี้และพวกเราจะไม่ใช่ฝ่ายที่พ่ายแพ้
สหายทุกท่าน ประวัติศาสตร์จะจดจำจารึกชื่อ ตลอดจนไม่มีวันให้อภัยแก่นักปฏิวัติที่รั้งรอผลัดวันประกันพรุ่งมีจิตใจโลเลไม่กล้าตัดสินใจลุกขึ้นสู้ในห้วงเวลาที่ตนเองมีโอกาสกุมชัยชนะ ความโลเลไม่มั่นคงนี้จะนำมาซึ่งความเสี่ยงที่พวกเราจะก้าวเข้าสู่หุบเหวแห่งความพ่ายแพ้ และความเสี่ยงนี้จะนำพาพวกเราไปสู่การสูญสิ้นทุกสิ่งอย่าง
พี่น้องทุกท่าน หากเรายึดอำนาจรัฐในวันนี้ ขอให้ทุกท่านรับทราบว่าเราไม่ได้ยึดอำนาจเพื่อจะแสดงตนเป็นปรปักษ์กับสภาโซเวียต หากแต่เรายึดอำนาจนี้ก็เพื่อช่วยเป็นตัวแทนให้แก่สภาโซเวียต
การยึดอำนาจนี้คือภารกิจสำคัญของการลุกขึ้นสู้ และการยึดอำนาจนี้จะทำให้เป้าหมายทางการเมืองของเราชัดเจนยิ่งขึ้น
สหายทุกท่าน ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าการพยายามประวิงเวลารั้งรอโดยหวังจะต่อสู้ในกระบวนการด้วยการเข้าไปยกมือลงมติผ่านสภาในวันพรุ่งนี้ คือความผิดพลาดและเป็นหนทางสู่หายนะ ผมขอให้สหายได้ตระหนักว่าพี่น้องประชาชนของเราคือผู้ทรงสิทธิที่จะตัดสินใจ และพวกเขากำลังปฏิบัติการที่จะตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ด้วยการโหวตผ่านผู้แทนในสภา พี่น้องประชาชนของเราเลือกแก้ไขมันด้วยพลังและการยืนหยัดต่อสู้ของพวกเขาเอง ภายใต้ห้วงเวลาชี้ขาดแห่งการปฏิวัติ ประชาชนคือผู้ทรงสิทธิและอำนาจที่จะกำหนดทิศทางการต่อสู้ให้แก่ผู้แทนของพวกเขา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วบรรดาผู้แทนย่อมไม่ควรกระทำตนเป็นตัวถ่วงที่คอยขัดขวางประชาชนในโมงยามแห่งการปฏิวัติ
สิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดได้รับการพิสูจน์แล้วทั้งสิ้นจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา หากท่านวางเฉยและเอาแต่เฝ้าคอยไม่ลงมือกระทำการใด จนเป็นเหตุให้โอกาสแห่งชัยชนะและการปฏิวัติได้หลุดลอยไป ผมขอเอาหัวเป็นประกันว่าท่านจะต้องเสียใจไปจนวันตายและนี่จะเป็นความผิดบาปติดตัวท่านไปจนชั่วกัลปาวสาน เพราะความเฉื่อยชานี้ไม่เพียงแต่เป็นการปล่อยให้โอกาสแห่งการปฏิวัติหลุดลอยไปเท่านั้น แต่มันหมายถึงการยินยอมให้หนทางแห่งสันติภาพหลุดลอยไป คือการยินยอมปล่อยโอกาสที่จะฟื้นฟูเปโตรกราด โอกาสในการรอดพ้นจากความวินาศแห่งความอดอยากขาดแคลน และโอกาสในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินกับพี่น้องประชาชนหลุดลอยออกไป
สหายทุกท่าน รัฐบาลนี้อยู่ในสภาวะโงนเงนใกล้ล่มสลายเต็มทน นี่คือหน้าที่พวกเราที่จะมอบจุดจบให้แก่มันการประวิงเวลาเตะถ่วงการปฏิวัติ คือหนทางที่จะพาเราไปสู่ความหายนะ